ในโลกปัจจุบัน ความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่องค์กรทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐหรือเอกชน CSR ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แต่เป็นวิธีการที่สะท้อนถึงคุณธรรมอันเป็นรากฐานของความยั่งยืนและความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรกับสังคม

ข้อมูลการประเมินคุณธรรมในองค์กรภายใต้กระทรวงการคลังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปลูกฝังและพัฒนาคุณธรรมในทุกระดับ ผลการประเมินในมิติที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น

ความดีต่อเพื่อนบ้าน ที่มีคะแนนสูงถึง 92.0 คะแนน สะท้อนถึงความสามารถขององค์กรในการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับชุมชนรอบข้าง

ความดีต่อองค์กร ซึ่งได้รับคะแนน 96.0 คะแนน ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณธรรมในระดับทีมและองค์กร

การส่งเสริม CSR ผ่านการยึดมั่นในคุณธรรมสามารถเริ่มต้นได้จากภายในองค์กรเอง การสนับสนุนให้บุคลากรมีคุณธรรมในตนเอง เช่น ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความเสียสละ ส่งผลต่อความจริงใจในการดำเนินงานด้าน CSR องค์กรที่ให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของพนักงาน ช่วยสร้างบุคลากรที่มีความสมดุลทั้งในด้านอารมณ์และจริยธรรม สิ่งนี้ส่งผลให้พวกเขาสามารถเป็นตัวแทนขององค์กรในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม

ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและสังคมรอบข้างเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้โครงการ CSR ประสบความสำเร็จ ความสามัคคีและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในทีมงานช่วยผลักดันให้กิจกรรมต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในระดับองค์กรยังเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นในสายตาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

โดยสรุป การส่งเสริม CSR ผ่านการพัฒนาคุณธรรมในองค์กรไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังเป็นการลงทุนในความยั่งยืนระยะยาวขององค์กร การยึดมั่นในคุณธรรมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคลหรือองค์กร ช่วยสร้างความไว้วางใจจากสังคม และส่งเสริมความร่วมมืออันดีที่จะนำไปสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนร่วมกันในอนาคต

ที่มา : https://datacat.moralcenter.or.th/dataset/563cb400-3280-4f0d-be5c-1c5c8947a710/resource/3c20beda-b0e4-463d-b26a-7e30b2b704cf/download/hmi.xlsx