“เสียสละ ให้อภัย
รู้จักแบ่งปัน”
กว่าจะมาเป็นวันนี้
ก่อนที่จะมาเป็นวันนี้ จากสภาพที่เห็นสาธุชนรวมกลุ่มกันยาก หาคนที่จะเสียสละมาทำงานส่วนรวม มีเป็นจำนวนน้อย ต่างคนต่างทำ ไม่มีใครยอมใคร จึงจะต้องใช้อุบายให้คนมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยที่จะต้องเป็นกิจกรรมต่อเนื่องและไม่บ่อยเกินไป จึงได้กำหนดเอาวันพระ ซึ่งสัปดาห์หนึ่งมีครั้งหนึ่ง และจะต้องทำตลอดทั้งปีโดยมีพระสงฆ์ในวัดเป็นแกนนำในการขับเคลื่อน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ
เริ่มต้นด้วยการชักชวนประชาชนที่มาวัดก่อน ด้วยเวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์จะให้สัญญาณ ด้วยการเปิดธรรมะและบทสวดมนต์ทางหอกระจายข่าวของวัด เมื่อสาธุชนได้ยินก็เริ่มทยอยกันอาบน้ำและแต่งตัวสุภาพ ใส่เสื้อขาวเดินทางมาที่วัด ทางวัดจัดหนังสือสวดมนต์แจกคนละเล่มใครมาถึงก่อนมีรางวัลให้ และใครชักชวนคนอื่นมาได้อีกก็มีรางวัลเช่นกัน จนทุกวันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำเป็นประจำของชุมชน โดยขยายให้วัดป่าทำด้วยเช่นกัน เพราะในชุมชนมีวัดจำนวน ๔ วัด
สอบถามว่าคนในชุมชน มีปัญหาที่อยากแก้ไข มีความดีอะไรที่อยากทำและสามารถทำได้ เช่น ปัญหาลักขโมย ปัญหายาเสพติด ปัญหาเล่นการพนัน ปัญหาทะเลาะวิวาท ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทุจริต หลอกลวง ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ปัญหาดื่มเหล้า เสพของมึนเมา ปัญหาขยะ การรักษาความสะอาด ปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย ปัญหาการแสดงที่ไม่เหมาะสมในงานบุญ ประเพณี ปัญหาผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง
ผู้นำทางศาสนาได้ชี้ให้เห็นถึงสิ่งดีงามที่เกิดขึ้นในชุมชน เช่น มีการรวมกลุ่มอาชีพ มีการรวมกลุ่มออมทรัพย์ มีการรวมกลุ่มจิตอาสา ทำความดี มีการเข้าร่วมงานวันสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มีการเข้าร่วมงานเทศกาล ประเพณีสำคัญของชุมชน มีการฟื้นฟู พัฒนา ต่อยอด ถ่ายทอดงานเทศกาล ประเพณี มี
พัฒนาต่อยอดถ่ายทอดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม มีการรวมกลุ่มภูมิปัญญาและวัดเป็นจุดศูนย์รวมของกิจกรรมในชุมชน และศูนย์รวมทางใจ นำความสุข ความสามัคคีเอื้อเฟื้อ แบ่งปันกันและพึ่งพากันและกันในชุมชน
สวดมนต์ทำวัตรเย็นทุกวันพระตลอดทั้งปี จึงได้กำหนดเอาวันพระ ซึ่งสัปดาห์หนึ่งมีครั้งหนึ่งและจะต้องทำตลอดทั้งปีโดยมีพระสงฆ์ในวัดเป็นแกนนำในการขับเคลื่อน ใช้กุศโลบายดึงคนเข้าวัด และค่อยๆ ละลายพฤติกรรมที่มีอยู่เดิมของคนในชุมชน จนกลายเป็นนิสัยและกลายเป็นจุดเด่นของวัดในการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชนวัดอุตสาหะ ที่มีการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ซึ่งปรากฏให้เห็นในทุกเพศทุกวัย
ความท้าทาย
อุปสรรคและความท้าทายของชุมชนคุณธรรมวัดอุตสาหะ คือ พระสงฆ์ในวัดจะทำเป็นแบบอย่างแก่คนในชุมชนได้หรือไม่ ประชาชน ชาวบ้าน ที่มาสามารถให้กำลังใจกันได้ไหม กับคนที่อ่านหนังสือไม่ออก มีน้ำปานะมาแบ่งปันกันได้หรือไม่ คนในครอบครัวสนับสนุนหรือไม่ มีจิตอาสาทำงานให้วัดได้หรือไม่ ทำบ้านให้สะอาดเหมือนวัดได้หรือไม่ จากปัญหาเหล่านี้ก็สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ทุกเรื่อง พระสงฆ์ทำหน้าที่ได้ดี สาธุชนที่มาต่างแต่งตัวเรียบร้อยสะอาดมีอาหารมาช่วยแบ่งปันกัน ครอบครัวให้การสนับสนุนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คนในชุมชนให้การช่วยเหลือกันที่สำคัญทางวัดจะอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น
ผู้สูงอายุในชุมชนมีกิจกรรมที่สามารถปฏิบัติร่วมกันที่ดี ให้กำลังใจกัน มีการพบปะกันเพิ่มมากขึ้น แบ่งอาหารช่วยเหลือซึ่งกันในระหว่างครัวเรือน ให้อภัยกันมากขึ้นเมื่อมีการทำผิดพลาด และที่สำคัญได้เรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาผ่านบทสวดมนต์
พฤติกรรมคนในชุมชน มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีการรวมกลุ่มมีความสามัคคี ลูกหลานมีความกตัญญูกตเวที พ่อแม่ปู่ย่าตายาอุ้มลูกจูงหลานเข้าวัด และวัดเป็นจุดศูนย์กลางในชุมชนในการเกิดความร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานบุญ งานเทศกาลประเพณีฯ ถือเป็นพลังของชาวบ้านโดยแท้จริง
สามารถเปลี่ยนคนในชุมชนที่ต่างคนต่างอยู่ ไม่สนใจกัน ไม่เสียสละเพื่อส่วนรวม ให้กลายมาเป็นคนที่มีทัศนคติเชิงบวก เป็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน มีจิตอาสา พึงพาซึ่งกันและกันได้ มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน และรักบ้านรักท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาบ้านตนเองและชุมชน
เป้าหมายที่จะเดินต่อ
มีจุดมุ่งหมายในการรวมกลุ่มกันทำงานเพื่อส่วนรวมมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายเข้าใจพฤติกรรมคนในชุมนตามความเป็นจริงไม่เอาตนเองหรือครอบครัวตนเองเป็นมาตรฐานในการประเมินคนอื่น
ข้อมูลการติดต่อ
พระครูวิริยธรรม ๐๙๖-๒๔๓-๘๐๕๔
แสดงความคิดเห็น