“รู้จักใช้ รู้จักทิ้ง เพื่อชุมชนบ้านทุ่งวิมานน่าอยู่”

กว่าจะมาเป็นวันนี้

        แต่เดิมชุมชนบ้านทุ่งวิมานนั้นไม่มีการจัดการขยะที่เป็นระบบ คนในชุมชนนั้นจัดการขยะโดยทิ้งขยะทุกประเภทรวมกันลงในถังขยะที่ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านควนจัดเตรียมไว้ให้โดยไม่มีการคัดแยกประเภทของขยะ ทั้งยังมีการทิ้งขยะไม่เป็นที่ คือการทิ้งลงแม่น้ำ ลำคลอง ทิ้งข้างถนน บ้างก็นำมาเผา ส่งผลให้เกิดมลภาวะทางน้ำและทางอากาศ ต่อมาชุมชนบ้านทุ่งวิมานได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการขยะ เริ่มจากการจัดตั้งคณะทำงานซึ่งเรียกว่า “สภาผู้นำชุมชน” เพื่อสร้างแกนนำชุมชนในด้านการจัดการขยะให้มีระบบ ระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน โดยอาสัยความร่วมมือจากกลุ่มต่างๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๓๐ ท่าน ประกอบด้วย ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ครู ศพด. ครู สพฐ. ครูสอนตาดีกา เยาวชน เจ้าหน้าที่ อบต. ครู กศน.ได้มีการประชุมไตรมาสละครั้งเพื่อหาแนวทางการจัดการขยะในชุมชน 

เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ 

         สภาผู้นำชุมชนบ้านทุ่งวิมารได้สร้างแกนนำชุมชนด้านการจัดการขยะขึ้นโดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีการวางแผนการดำเนินงาน และกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดการขยะในชุมชนอย่างเป็นระบบ ดังนี้

๑.มีการจัดอบรม ให้ความรู้ “สภาผู้นำชุมชน และพัฒนาศักยภาพชุมชน”เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสภาชุมชนและสร้างข้อตกลงร่วมกัน

๒.สำรวจข้อมูลสถานการณ์ขยะระดับครัวเรือนและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ให้ทราบถึงความเป็นไปว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานจัดการขยะ

๓..จัดประชุมสภาผู้นำชุมชนเพื่อติดตามผลการดำเนินงานว่าเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดหรือไม่ มีกิจกรรมไหนบ้างที่อาจต้องมีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

๔.มีการจัดอบรมการปฏิบัติการจัดการขยะในชุมชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงจัดตั้งธนาคารขยะรีไซเคิล รวมถึงกำหนดข้อตกลงของชุมชน

๕.ทางชุมชนนั้นมีการให้ความรู้ในเรื่องของการจัดการขยะผ่านการจัดโครงการ กิจกรรมทั้งหมด ๔ ฐาน

ความท้าทาย

๑.ในช่วงเวลาที่มีการดำเนินกิจกรรม คณะทำงานส่วนใหญ่ติดภารกิจจึงทำให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ขาดบุคลากรในการทำงาน สภาผู้นำชุมชนจึงมีการดึงทีมงานจากกลุ่มเยาวชนในชุมชนเข้ามามีบทบาทให้มากที่สุดเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวบ้าน

๒.ในช่วงระยะเวลาที่มีการดำเนินกิจกรรมนั้น กลุ่มเป้าหมาย คนในชุมชนมีความจำเป็นต้องทำงานส่วนตัวก่อนจึงสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้อยู่บ่อยครั้ง

๓. สภาชุมชนบ้านทุ่งวิมานนั้นยังขาดทักษะในการทำงานเป็นทีมจึงต้องจัดมีการกิจกรรมเพื่อเสริมสร้าง พัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันเป็นประจำ

๔.คนในชุมชนนั้นไม่มีความกระตือรือร้นในการให้ความร่วมมือเพื่อทำกิจกรรมที่ชุมชนจัดขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมประกวดบ้านที่คัดแยกขยะเพราะต่างคนต่างมีงานต้องทำ

ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น

          หลังจากได้มีการรับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารในหลายๆ ช่องทางเกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชน         ชุมชนเกิดแนวคิดการจัดการขยะขึ้นโดยการสร้างสภาผู้นำชุมชนขึ้น จำนวน ๒๕ คน ที่ปรึกษาสภา จำนวน ๕ คน ที่มีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ทำให้สภาผู้นำชุมชนมีกลไกการติดตามและสร้างแรงจูงใจในการคัดแยกขยะสภาผู้นำชุมชนมีการติดตามการจัดการขยะใน ครัวเรือนทุกเดือนเกิดข้อตกลงสภาผู้นำชุมชนมีการติดตามและให้ข้อมูลโดยสภาผู้นำชุมชน จำนวน ๕ ครัวเรือน ต่อ สภาผู้นำชุมชน ๑ คนจากการสำรวจข้อมูลสถานการณ์ขยะในครัวเรือนโดยสภาชุมชน จำนวน ๑๕๐ ครัวเรือน ผลการสำรวจข้อมูล มีครัวเรือนคัดแยกขยะถูกวิธี จำนวน ๕๐ ครัวเรือนค่าเฉลี่ยจำนวนขยะต่อครัวเรือน ๘๑.๒ กก./เดือน/ครัวเรือน รวมทุกประเภท

เป้าหมายที่จะเดินต่อ

จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมานั้น ชุมชนคุณธรรมบ้านทุ่งวิมานมีเป้าหมายในการให้ทุกหลังคาเรือนในชุมชนมีการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง คนในชุมชนมีจิตสำนึกในการทิ้งขยะให้เป็นที่ ไม่ทิ้งลงในแม่น้ำลำคลอง หรือนำไปเผาเช่นก่อนมีการดำเนินโครงการ อีกทั้งมีความต้องการให้ชุมชนคุณธรรมบ้านทุ่งวิมานเป็นชุมชนปลอดถังขยะ คนในชุมชนมีรายได้เสริมจากการคัดแยกขยะในครัวเรือน

ข้อมูลผู้ติดต่อ

นายเจ๊ะอาด สัญญา ๐๘๙-๖๕๕-๙๐๗๐