ความเด่นของชุมชนคุณธรรมบ้านดงพลับ

          (วัดดงพลับ) วังทรายพูน เป็นชื่อของภูมิประเทศที่เป็นที่ราบลุ่มบริเวณวัดเขตมงคล วังทรายพูน ในสมัยก่อนนั้นเป็นวังน้ำขนาดใหญ่ ทรายที่ไหลผ่านมาตามพระแสน้ำจากเชิงเขาด้านตะวัน ออก ได้ทับถมกันสูงขึ้นลักษณะเหมือนเอาทรายมาพูนเป็นกอง บริเวณตำบลวังทรายพูน เป็นที่สูงน้ำจะไหลผ่านทั้ง 3 ด้าน ทิศเหนือ ทิศใต้และทิศตะวันตก ชาวบ้านจึงเรียกชื่อตำบล วังทรายพูน และตั้งเป็นชื่ออำเภอวังทรายพูน จนถึงปัจจุบัน บ้านดงพลับ อยู่ในเขตปกครองอำเภอวังทรายพูน หมู่ที่ 6 ตำบลหนองพระ อำเภอ วังทรายพูน จังหวัดพิจิตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีประชากรจำนวน 90 ครัวเรือน มีประชากร 300 กว่าคน เชื้อสายไทย- ลาว ส่วนใหญ่เป็นคนภาคกลาง อาชีพคือทำการเกษตรเป็น หลัก คนในชุมชนพึ่งพาตนเอง พอมี พอกิน พอใช้ มีภูมิคุ้มกันประพฤติปฏิบัติตามหลัก ธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน ใช้วิถีชีวิตตาม วิถีวัฒนธรรมไทยอันดีงาม โดยทุกคนมีส่วนร่วมกันขับเคลื่อนชุมชนในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา และรับผิดชอบในการพัฒนาชุมชนในหมู่บ้านให้พัฒนาให้ดีขึ้น

อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่าจะเป็นวันนี้ได้

         บ้านดงพลับ สมัยก่อนหมู่บ้านเป็นป่าไม้มะพลับขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่า ดงมะพลับ หรือดงพลับและตั้งเป็นชื่อหมู่บ้าน จนทุกวันนี้ ชาวบ้านดงพลับ ประกอบอาชีพ ทำนาเป็นหลัก อาศัยแหล่งน้ำจากธรรมชาติ คือ น้ำฝน เป็นหลักในการประกอบอาชีพ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย วัดดงพลับ จึงเป็นศูนย์รวมใจหรือจุดรวมของชาวบ้านในการ ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ถึงแม้นจะเป็นวัดเล็กที่กำลังพัฒนาและกำลังก่อสร้างเสนาสนะเพื่อ ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา ด้วยการนำของเจ้าอาวาส พระอธิการณรงค์ กิจฺจธโร

ปัญหาที่อยากแก้ ความดีที่อยากทำ
      
         ปัญหาที่อยากแก้
         1. การพัฒนาจิตใจ อยากให้เข้าวัดมากขึ้น เพื่อรักษาศีล 5 และประพฤติปฏิบัติ ธรรม สวดมนต์ไหว้พระ เจริญจิตภาวนา
         2. การเสียสละ อยากให้ชาวพุทธศาสนิกชนและชาวบ้าน ได้รู้การเสียสละเวลา เพื่อส่วนรวม เพื่อชุมชนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ต้องทำมาหากินประกอบ อาชีพเพื่อเลี้ยงชีพ จึงให้ขาดสิ่งนี้หายไป
         3. การสามัคคี ไม่ว่าผู้นำของหมู่บ้าน หรือชาวบ้าน ขาดความสามัคคี ในการดำเนิน งานกิจกรรมของหมู่บ้าน ของภาครัฐ หรือทางวัด อยากส่งเสริมความสามัคคี เพื่อให้หมู่บ้าน วัด และโรงเรียน ได้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า ปราศจากปัญหาต่างๆ เพราะเรามีความสามัคคี ในการแก้ไขปัญหา
         ความดีที่อยากทำ ส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดยการยึดการขับเคลื่อน ด้วยพลังบวร การใช้ชีวิตในการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของ รัชกาล 9 มาเป็นแนวทาง ในการพัฒนาชีวิตของคนในชุมชนให้อยู่ดี กินดี ห่างไกลจากยาเสพติดและสิ่งมัวเมาต่าง ๆ สามารถอยู่ด้วยตนเองและดำเนินชีวิตอย่างความสุข
         กระบวนการพัฒนา
         1. เริ่มจากชุมชนคุณธรรมวัดดงพลับ มองถึงปัญหาที่ยากจะแก้ไข ประเมินจาก ความเป็นจริงที่อยากจะแก้ไขค้นหาความดีที่อยากจะทำให้เกิดขึ้นชุมชน โดยการให้คนชุมชน ได้มีส่วนรวม โดยขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
         2. กำหนด วางแผน โดยการนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นพื้นฐานของ การดำเนินชีวิตของคนในชุมชน
         3. ประชาสัมพันธ์กิจกรรม เชิญชวน ในสื่อที่เข้าถึงง่าย เช่น การส่งเสริมปฏิบัติตาม หลักธรรมคุณงามความดี ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นที่ปฏิบัติกันมา
         4. ประเมินผล ในภาพรวมในส่วนที่เกี่ยวข้องของชุมชนในส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไป สู่วิธีการพัฒนาต่อ
         การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
         1. ขยายเครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดพงพลับ หมู่ที่ 6 ไปสู่ชุมชนคุณธรรมหมู่ที่ 17 ตามแนวทางยุทธศาสตร์ซึ่งมีจังหวัดเป็นต้นแบบคุณธรรม ภายใต้การขับเคลื่อนแผนแม่บท แห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564)
         2. ชุมชน อยู่ดี กินดี ประกอบสัมมาชีพสุจริต พัฒนาไปสู่สังคมที่เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน ห่างไกลจาก ยาเสพติด เกิดความสุข สู่สังคมที่ยั่งยืน
         ยึดหลักการส่งเสริมปลูกฝังคุณธรรม
         เป็นชุมชนคุณธรรมที่มีแนวทางปฏิบัติเป็นพื้นฐาน หลักธรรมฆราวาส 4 และ สามัคคีธรรม มีภูมิคุ้มกัน เกิดความรักความสามัคคีในชุมชน ส่งเสริมการรู้จักเสียสละ การมีน้ำใจต่อกัน ความแสดงออกถึงความจริงใจซื่อสัตย์ต่อกัน ประพฤติปฏิบัติต่อความดี อย่างสม่ำเสมอ
         สิ่งที่อยากทำต่อ
         1. การที่จะให้ชุมชนคุณธรรมพลังบวร มีความเข้มแข็งได้ ต้องอาศัยหน่วยงาน ภาครัฐที่เป็นแม่งาน คือ กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เข้าร่วมงานของชุมชน และให้ข้อเสนอแนะ เพราะปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ จะให้ความ ร่วมมือเฉพาะองค์กรของภาครัฐของกิจกรรมอื่นๆ ส่วนองค์กรด้านศาสนา จะร่วมงานตาม กิจกรรมสำคัญเท่านั้น
         2. ชุมชนคุณธรรมวัดดงพลับ ในอนาคตอาจจะขยายเข้าสู่โรงเรียน “โรงเรียนวิถี ธรรม วิถีพุทธ” ในการรักษาศีล 5 คู่กับชุมชน หรือ ดำเนินการเปิดองค์กรชุมชนคุณธรรมฯ