“เมืองรวงบ้านน่าอยู่
พระสิงห์ล้ำค่าคู่เมือง
ลือเลื่องกลองบูชาใหญ่
รักษาไว้ซึ่งความสามัคคี”
กว่าจะมาเป็นวันนี้
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นางบัวผัด และนายทวี กำแพงแก้ว ได้เข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ผัก “เพื่อนช่วยเพื่อน” ของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ และประสบความสำเร็จในการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือน จำนวน ๒ ครั้ง เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกในหมู่บ้านดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ในส่วนของ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์ได้เข้ามาดำเนินการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะภายในตำบล เพื่อลดปัญหาขยะ จากการจัดการขยะที่ผิดวิธีในชุมชน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ
จากแรงบันดาลใจของผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกในหมู่บ้านที่จะดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และปัญหาขยะในชุมชน ก่อให้เกิด ความร่วมมือของพลัง “บวร” ในการทำงานร่วมกันระหว่าง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์ ร่วมกับผู้นำชุมชน ดังนี้
๑.จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนมีการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการจัดการขยะภายในครัวเรือน มีแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินผล พร้อมประกาศยกย่อง เชิดชูเกียรติ สำหรับครัวเรือนที่ได้ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการจัดการคัดแยกขยะภายในครัวเรือน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครัวเรือนอื่น
๒. มีการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร โดยมีการรับซื้อขยะของสมาชิกภายในชุมชน มีการจัดตั้งธนาคารขยะและปันผลประจำปีให้กับสมาชิก ก่อให้เกิดรายได้ต่อชุมชน ตลอดถึงได้รับ ความร่วมมือจากสมาชิกภายในชุมชนเป็นอย่างดี นำไปสู่การได้รับเสนอชื่อเข้ารับการประกวดแข่งขันในระดับต่างๆ อาทิ ปี ๒๕๖๐ ได้รับรางวัลชนะเลิศตามโครงการประกวดหมู่บ้านสะอาด หน้าบ้านน่าดู หลังบ้านน่ามอง พี่น้องสามัคคี องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์ ปี ๒๕๖๑ ได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง "อยู่เย็น เป็นสุข” รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาชุมชน ให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยใช้เสน่ห์ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ แปลงเป็นรายได้ จากการสร้างเป็นฐานเรียนรู้ให้แก่ผู้ศึกษาดูงาน/นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จนถึงปัจจุบัน
ความท้าทาย
การที่จะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในชุมชน ในการที่จะให้มีการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะภายในชุมชน ซึ่งทางผู้นำชุมชนบ้านเมืองรวง ได้ใช้หลักการ “ผู้นำต้องทำก่อน” พร้อมทั้งการแสดงออกถึงความตั้งใจที่จะทำให้สมาชิกในชุมชนเกิดรายได้ก่อให้เกิดมีความสุข และยังให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและทั่วถึงในการกระจายผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกันของสมาชิกในชุมชน จึงทำให้สมาชิกในชุมชนให้ความร่วมมือและเชื่อมั่นในการทำงานของผู้นำเป็นอย่างดี
ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น
จากการดำเนินงานในการขับเคลื่อนให้ชุมชนบ้านเมืองรวงเป็นชุมชนที่มีเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นชุมชนที่มีสะอาด ปราศจากขยะ ทำให้สมาชิกในชุมชนมีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและการจัดการขยะโดยชุมชน มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยมีระเบียบวินัย ในการจัดการขยะในครัวเรือน การแยกขยะ กำจัดขยะให้ถูกวิธีและเหมาะสม การใช้ประโยชน์จากขยะ นำขยะอินทรีย์มาทำปุ๋ยหมัก ทำดิน เป็นต้น ชุมชนคุณธรรมบ้านเมืองรวงจึงเป็นชุมชนที่สะอาด สมาชิกในชุมชนมีความสามัคคี ประกอบกับการมีวิถีชีวิตแบบพอเพียง ตามสโลแกน “ชุมชนสะอาด หน้าบ้านน่าดู หลังบ้านน่ามอง พี่น้องสามัคคี” นำไปสู่การพัฒนาชุมชน ให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชน สร้างรายได้ให้กับชุมชน
เป้าหมายที่จะเดินต่อ
ชุมชนบ้านเมืองรวง โดยการนำของนายสมาน เทพสุภา ผู้ใหญ่บ้านเมืองรวง มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สมาชิกทุกคนในชุมชนเกิดรายได้และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขการที่ชุมชนบ้านเมืองรวง เป็นชุมชนที่มีความสะอาด หน้าบ้านน่าดู หลังบ้านน่ามองและความสามัคคี จะเป็นเสน่ห์ของชุมชนที่จะนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภายในชุมชน ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวไม่ได้ทำขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาสมาชิกในชุมชน ให้สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ที่มีเฉพาะในชุมชนตนเอง ตลอดถึงพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมที่ชุมชนมีอยู่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย โดยหากชุมชนสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ ก็จะมีรายได้เสริมเข้ามามากขึ้น และหากทำได้ดี ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นรายได้หลักอีกทางได้ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาของเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ การบริหารจัดการการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน โดยจะต้องการสร้างความเสมอภาคและความทั่วถึงจึงจะทำให้เกิดความยั่งยืน
แสดงความคิดเห็น