ชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ มี ๓๓๐ ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีอาชีพทำสวน ทำไร่ ทำนา และเลี้ยงสัตว์ ชุมชนมีการอนุรักษ์ สืบสาน และถ่ายทอดภูมิปัญญา ประเพณี พิธีกรรม และวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าเขมรมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ชุมชนมีความสามัคคี มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเกษตรกรรม เช่น ชมสวนทุเรียนภูเขาไฟ เยี่ยมชมอัตลักษณ์การแต่งกายของชนเผ่าเขมร อาหารพื้นถิ่น รวมไปถึงของฝาก เช่น ไข่เค็มภูเขาไฟ เป็นต้น 

เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนต้นแบบ 

๑.ใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนาและการอนุรักษ์ประเพณีของชนเผ่าเขมร โดยพระครูอรุณปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ เสนอแนวคิดในที่ประชุมของคณะกรรมการหมู่บ้าน โดยนำชุมชนสมัครเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้ชุมชน นำความเชื่อและความศรัทธามาปรับเปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบสุข

๒.การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติในชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีความเข้าใจในการดำรงชีวิต มีความอดทน อดออม ขยัน ไม่โลภ มีความพอประมาณ รู้จักพึ่งตนเอง พึ่งกันเองในชุมชน ซึ่งมีการรวมกลุ่มทำอาชีพเสริม เช่น กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มจักสาน ต่อยอดการทำสวนทุเรียนภูเขาไฟ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และมีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวแบบเป็นกันเอง ราคาย่อมเยาว์และส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวหน้าบ้านเพื่อใช้ในการประกอบอาหารของครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้

๓.ทุนทางวัฒนธรรมของชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และมีจุดเด่นที่สามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว การศึกษาแลกเปลี่ยน การจัดทำองค์ความรู้ เพื่อสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่

๔.ความเข้มแข็งของพลัง “บวร” และการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ส่งเสริมให้คนในชุมชนรู้จักการวางแผนการพัฒนาชุมชนโดยเน้นการมีส่วนร่วมในการวางแผน การดำเนินงาน การรับผลประโยชน์ และการปรับปรุงการดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ

ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ

๑.ด้านศาสนธรรม : ชุมชนมีการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอน รักษาศีล ทำดี พูดดี ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข กิจกรรมที่โดดเด่นและมีผลการดำเนินงานเชิงประจักษ์ ได้แก่ การได้รับคัดเลือกให้เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ ๑ ใน ๑๒ ชุมชนโดดเด่นในจังหวัดศรีสะเกษ

๒.ด้านหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการสืบสาน รักษา ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมกลุ่มประกอบอาชีพเสริม ได้แก่ กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มทำไม้กวาดทางมะพร้าว มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนจำหน่าย เช่น ไข่เค็มภูเขาไฟ ตะกร้าหวาย กระเป๋าจากซองกาแฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในชุมชน เช่น ชมสวนทุเรียนภูเขาไฟ เป็นแหล่งเรียนรู้และเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำให้คนในชุมชนรู้จักพึ่งพาตนเอง ประกอบสัมมาอาชีพ รายได้เพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี

๓.ด้านการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น : มีการรักษาและสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชนเผ่าเขมร ใช้ภาษาเขมรในการสื่อสาร การแต่งกาย อาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของชนเผ่าเขมร การจัดกิจกรรมประเพณีตามฮีตสิบสองคลองสิบสี่ ประเพณีแซนโฎนตา ประเพณีปรังอ็อกเปรี๊ยะแค รำแม่มด การเซ่นไหว้ผีปู่ตาประจำหมู่บ้านและการสักการะองค์หลวงพ่อพระตาตนเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านและประจำอำเภอขุนหาญ

ก้าวต่ออย่างมีคุณธรรม

๑.การส่งเสริมให้แกนนำพลัง“บวร” มีบทบาทในการพัฒนาตนเอง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนและยึดมั่นในหลักธรรมทางศาสนาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งสามารถปรับตัวและดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม

๒.ส่งเสริมการขยายผลการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนให้ได้รับโอกาสในการส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ชุมชนได้เข้าถึงโอกาสจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น เกิดความเข้มแข็งในชุมชน สังคม และประเทศชาติ มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

ผู้ประสานงานติดต่อพื้นที่ : นายแฉล้ม นิลสุข มือถือ ๐๘๔-๘๒๕๔๔๙๘ ชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ ตำบลบักดอง จังหวัดศรีสะเกษ