“ดินแดนเก่าครั้งก่อนหลายร้อยปี
แว่นแคว้นนี้มีหลักเมืองปกป้องภัย
วีรกษัตริย์ ชุมชนทัพ เพื่อนำชัยศูนย์รวมใจหลวงพ่อวงค์
หลวงพ่อดิ่ง วัดบ้านค่าย”
ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านค่ายเกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้านทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดดเด่นหลายประการ ให้ความสำคัญกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และมีความโดดเด่นหลายประการ อาทิ เป็น ๑๐๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบระดับประเทศ หมู่บ้านที่มีความมั่นคงทางอาหารของกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำโครงการพาลูกจูงหลานเข้าวัด
กว่าจะมาเป็นวันนี้
เริ่มต้นจากการทำชุมชนเข้มแข็งปี ๒๕๔๙ และต่อยอดมาเพิ่มกองทุนแม่ของแผ่นดินปี ๒๕๕๑ โครงการลานธรรมลานบุญลานปัญญา จนถึงโครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลัง บวร On Tour และเริ่มประกวดหมู่บ้านตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ ถึงปัจจุบัน จุดแข็งของชุมชนคือมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนโดยมีวัดบ้านค่าย เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจมีเอกลักษณ์ของชุมชน โดยเฉพาะภาษาถิ่น อาหารการกิน ขนมโบราณ ซึ่งสืบทอดกันมาแต่โบราณ
เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นต้นแบบ
ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านค่ายมีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันวันที่๕ธันวาคม ๒๕๖๐ ในการพัฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนคุณธรรม ดังต่อไปนี้
๑)เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
๒)ปฏิบัติหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย และสนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
๓)เป็นคนดี มีคุณธรรม เป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน
๔)ประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุตลบาท และศาสตร์พระราชา
๕)สืบสานอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
จากนั้นในปีต่อมาได้มีการพัฒนากระบวนการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมด้วย พลัง “บวร” โดยใช้แนวทาง ๙ ขั้นตอน ซึ่งเป็นการทำงานที่ระเบิดจากข้างใน
ความสำเร็จเริ่มต้นจากการพูดคุยกันของคนในชุมชนในรูปของกรรมการหมู่บ้าน กรรมการชุมชน และการนำเสนอด้านเวทีชุมชนของกรรมการวัดบ้านค่าย โดยทุกครั้งจะต้องเชิญโรงเรียนวัดบ้านค่าย เข้าร่วม การประชุม พอได้มีการประชุมกันบ่อยครั้งในแต่ละเดือนทำให้เกิดความคุ้นเคย หากมีการประชุมทั้งในส่วนของ หมู่บ้านจะต้องเชิญกรรมการวัดประชุม หากโรงเรียนวัดบ้านค่ายประชุมก็จะเชิญหมู่บ้านและทางวัดบ้านค่าย เข้าประชุมด้วย จึงเกิดข้อบันทึกตกลงร่วมกันของบ้าน วัด โรงเรียน
ความท้าทาย/พลังแห่งความสำเร็จ
ด้านอุปสรรคปัญหาที่พบในการพัฒนาต่อยอด คือ ความไม่เข้าใจกันของคนในชุมชน บ้าน วัด โรงเรียนทำให้บางครั้งขาดความร่วมมือในการทำกิจกรรม การก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ของชุมชน คือ การเปิดเวทีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ชุมชน คุณธรรมวัดบ้านค่ายจะมีการประชุมบ่อยครั้ง หลังเสร็จงานประชุมสรุปผลการดำเนินงาน และปลายปี ประชุม สรุปผลในภาพรวมตลอดทั้งปีเพื่อกำหนดแผนงานปีต่อไปพร้อมทั้งจัดงานประจำปีนำเสนอผลการดำเนินงานของกรรมการแต่ฝ่าย
ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ
คุณธรรมที่โดดเด่นของชุมชน คือ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งใช้ประโยชน์จากพื้นที่ และความรู้ทางการเกษตรผนวกกับการได้รับความรู้จากการจัดอบรมของหน่วยงาน ทำให้สามารถจัดทำผักสวนครัวรั้วกินได้จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน และด้านวินัยคือการใช้ประชาธิปไตยใช้การพูดคุยในเวทีหมู่บ้านหาข้อสรุปหรือข้อยุติปัญหาต่างๆโดยใช้ เสียงข้างมากเป็นหลัก แต่ก็รับฟังเสียงข้างน้อย เคารพความเห็นของกันและกัน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่คนในหมู่บ้านค่อนข้างจะดีมาก โดยเฉพาะมีผู้ติดเชื้อโควิค ๑๙ ในหมู่บ้าน หรือเป็นผู้กักกันตนในหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านไม่เคยรังเกียจมีแต่คอยให้กำลังใจกัน
ก้าวต่ออย่างมีคุณธรรม
ได้รับการคัดเลือกจาก สภ.บ้านค่าย ให้ทำโครงการชุมชนยั่งยืน หรือ หมู่บ้านสีขาวปลอดยาเสพติด ซึ่งมีทั้งหมด ๗ คุ้มบ้าน ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผู้เสพยาเสพติดยินยอมเข้าโครงการ พ่อแม่ผู้ปกครองยินยอมในโครงการซึ่งไม่มีการประจานกัน มีแต่ให้โอกาสกับผู้เสพยาเสพติด หลักประกันสำคัญว่ากิจกรรมจะเกิดความยิ่งยืนได้ คือ การใช้พลังบวรในการพัฒนาหมู่บ้าน
ผู้ประสานงานในพื้นที่
พระครูพิพัฒน์ชยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย เจ้าอาวาสวัดบ้านค่าย
โทร ๐๘๑-๙๔๙-๓๖๗๔,๐๘๗-๙๑๑-๐๙๓๕
แสดงความคิดเห็น