กว่าจะมาเป็นวันนี้

         ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีประวัติศาสตร์ มายาวนานกว่า ๑๙๐ ปี ย่านเมืองเก่าภูเก็ตในอดีตเป็นแหล่งแร่ดีบุกของจังหวัดภูเก็ต มีทำเลใกล้กับปากอ่าวทุ่งคา และมีลำคลองบางใหญ่ใหลผ่านซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ อันเป็นสถานีการค้าสินแร่ดีบุก ก่อเกิดเป็นชุมชนที่ประกอบด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ทำการค้า นำมาซึ่งพหุสังคมทางวัฒนธรรม เกิดเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นมีวิถีชุมชนประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมที่โดดเด่น สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ต่อมาการค้าแร่ดีบุกซบเซาลง ประกอบกับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดภูเก็ตได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากทัศนียภาพที่สวยงาม คนรุ่นใหม่ในชุมชนออกไปประกอบอาชีพธุรกิจโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวอื่น ทำให้มีการละเลยวิถีชีวิตชุมชนประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชุมชนที่สืบทอดกันมายาวนาน เพราะมีแต่คนรุ่นเก่าที่ดำเนินการขับเคลื่อนชุมชน

เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนต้นแบบ

         ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ตได้คำนึงถึงการที่คนรุ่นใหม่ทิ้งชุมชนไปเพื่อประกอบอาชีพธุรกิจโรงแรม และธุรกิจท่องเที่ยว จึงเกิดการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชนเพื่อร่วมกันระดมความคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาการละเลยวิถีชีวิตของคนในชุมชน รวมถึงประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมที่โดดเด่นของชุมชนที่สืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน โดยมีดำเนินงานขับเคลื่อนชุมชนด้วยอาศัยหลักคุณธรรม ให้คนทุกรุ่นในชุมชนมีส่วนร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผลประโยชน์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนชุมชน โดยมีผู้นำชุมชนที่ยึดหลักธรรมาภิบาล ทั้ง ๖ ข้อ ในการบริหารจัดการชุมชน มีการตั้งธรรมนูญชุมชนที่เป็นข้อตกลงรวมกันเพื่อใช้ในการปฏิบัติของคนในชุมชน รวมไปถึงการที่ชุมชนมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการขับเคลื่อน ให้ทุกภาคส่วนในชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชน

ทั้งยังได้ปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนระลึกถึงความสำคัญของการพัฒนา และให้มองภาพว่าคนในชุมชนทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ชุมชนคือบ้านที่ทุกคนต้องช่วยกันขับเคลื่อนไปข้างหน้า ลดความเป็นตัวตนเพิ่มความเป็นชุมชนส่วนรวม ก่อให้เกิดความมีจิตอาสา ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในการดำเนินงานขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมเพื่อก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความท้าทาย

         ในเบื้องต้นการขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในช่วงแรกคนในชุมชนยังคงมุ่งเน้นไปที่การดำรงชีวิตของตน ผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ขาดความมีจิตอาสา อันเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องข้ามผ่านไปให้ได้หากต้องการให้การดำเนินงานนั้นสามารถทำต่อไปได้โดยราบรื่น ซึ่งจำเป็นต้องทำให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักรู้ ดังนั้นแล้วทางชุมชนจึงมีการนำคุณธรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อเป็นสิ่งกระตุ้นให้คนในชุมชนเปลี่ยนแนวคิด มองถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ความเป็นน้ำหนึ่งอันหนึ่งอันเดียวกัน ความมีจิตอาสา จิตสาธารณะ การเสียสละเพื่อส่วนรวม และร่วมกันขับเคลื่อนชุมชนต่อไป รวมไปถึงการสืบสาน รักษา และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม วิถีชุมชน ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมที่โดดเด่น มาสร้างงาน สร้างรายได้ และประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางต่อไป โดยผ่านกระบวนการจัดทำแผนปฏิบัติการของชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในการกำหนดเป้าหมายของชุมชนในอนาคต และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ

ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น

         ภายหลังจากที่ชุมชนคุณธรรมย่านเมืองเก่าภูเก็ตได้นำหลักคุณธรรมมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต กระตุ้นให้คนในชุมชนตระหนักรู้และเปลี่ยนความคิดที่มีอยู่เดิม รวมไปถึงการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมที่คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชน ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเสนอความคิดเห็น ร่วมกันรับผลประโยชน์การการดำเนินงาน ทำให้คนในชุมชนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง เป็นการก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เกิดจิตสำนึกรักชุมชนเปรียบเสมือนบ้านของตนเอง คนในชุมชนทุกคนเหมือนคนในครอบครัว รักใคร่ปรองดอง ทุกคนมีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อส่วนรวม เกิดความสามัคคี มีจิตอาสา ยินดีที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้จะเป็นยามที่ต้องประสบกับความยากลำบาก

เป้าหมายที่จะเดินต่อ

         ชุมชนมีความคาดหวังว่า เด็ก เยาวชนรุ่นใหม่จะสามารถขับเคลื่อนชุมชนให้เดินต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน คงไว้ซึ่งความเป็นชุมชนคุณธรรม โดยคนรุ่นเก่าได้มีการปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามให้คนรุ่นใหม่ทั้งในเรื่องของประเพณีวัฒนาธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ความสามัคคี ความมีจิตอาสา ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน รวมถึงการเห็นความสำคัญ รักแหละหวงแหนบ้านเกิด และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมสนับสนุนและขับเคลื่อนชุมชนไปพร้อมกับนโยบายของทางส่วนราชการ รวมไปถึงการเป็นต้นแบบในการดำเนินงานให้กับ ชุมชนอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาในรูปแบบเดียวกันในอนาคตต่อไป

ข้อมูลติดต่อ

นายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ ๐๘๑-๘๙๒-๐๖๑๘