“หนองขุ่น ขุ่นแต่น้ำ ใจใส ปิ้งไก่เรืองนาม

สามเณรนับร้อย หอคอยชมทุ่ง นุ่งไทยโบราณ

สืบสานประเพณี ถนนสายวัฒนธรรม”

กว่าจะมาเป็นวันนี้

การดำเนินงานของชุมชนบ้านหนองขุ่นในทุกโครงการ กิจกรรมที่ได้จัดขึ้นนั้น เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน ภายใต้หลักการที่เรียกว่า “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน และหน่วยงานราชการในพื้นที่ ซึ่งมีการร่วมมือกันในการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชน โดย วัด ซึ่งมี พระครูจารุปริยัติการ เจ้าอาวาสวัดหนองขุ่น เป็นผู้นำการขับเคลื่อน บ้าน มีผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการ เป็นผู้นำในการขับเคลื่อน และโรงเรียน มี ผู้อำนวยการ ครูและนักเรียน เป็นผู้นำในการขับเคลื่อน ซึ่งทั้ง 3 เสาหลักนี้ดำเนินงานและทำกิจกรรมด้วยความรัก ความสามัคคี เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีภายในชุมชน นั่นก็คือ ความมีคุณธรรมเกิดความสามัคคีขึ้นระหว่างคนในชุมชน ส่งผลให้ชุมชนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแท้จริงเป็นที่ประจักษ์

เส้นทางสู่ความสำเร็จของการมาเป็นชุมชนต้นแบบคุณธรรม

เริ่มจากเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน มุ่งให้อยู่ร่วมกันในสังคมที่มีคุณธรรม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความสมานฉันท์ ยึดมั่นในหลักธรรมทางศาสนา นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วิถีวัฒนธรรมไทยมาใช้ในการดำรงชีวิต บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกันดำเนินการโดยยึดแนวทางการพัฒนาชุมชนคุณธรรม ตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๔) 

         ๑.ผู้นำชุมชนและคนในชุมชนประกาศเจตนารมณ์หรือข้อตกลงร่วมกัน 

         ๒.แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนพลังบวร 

         ๓.ร่วมกันกำหนดเป้าหมายของชุมชน โดยแบ่งเป็นปัญหาที่อยากแก้ความดีที่อยากทำ

         ๔.ร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาส่งเสริมคุณธรรมของชุมชนเกี่ยวกับปัญหาที่อยากแก้ความดีที่อยากทำ ตามความต้องการของชุมชน

         ๕.ดำเนินการตามแผน มีการจัดทำโครงการ กิจกรรมแก้ไขปัญหาของชุมชน รวมถึงความที่คนในชุมชนอยากที่จะทำ

         ๖.มีการยกย่องบุคคลทำความดี และบุคคลผู้มีคุณธรรมในชุมชนรวมถึงบุคคลอื่นที่ทำความดีให้กับชุมชน

         ๗.ประเมินผลสำเร็จตามโครงการ/กิจกรรม ที่ระบุไว้ในแผนฯทำให้คนในชุมชนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

๘.ขยายผลเพิ่มเติมใน ๓ มิติ คือ มิติทางศาสนา มิติทางด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมิติทางวิถีวัฒนธรรม

         ๙. ชุมชนคุณธรรมวัดหนองขุนสามารถดำเนินตามแผนพัฒนาที่ได้ร่วมกันวางแผนไว้จนสามารถพัฒนาชุมชนให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และก้าวสู่ชุมชนต้นแบบคุณธรรม

จากการดำเนินงานของชุมชนคุณธรรมวัดหนองขุ่น ทำให้คนในชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในชุมชนของตนเอง ที่เป็นชุมชนต้นแบบเป็นชุมชนแห่งการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่ประชาชนทุกกลุ่มวัยตามแนวทางของพระพุทธศาสนา พัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม สืบสานจารีตและประเพณีท้องถิ่น วัฒนธรรมอันดีงาม เสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและหลักธรรมาภิบาล สร้างชุมชนให้มีรายได้ ดำรงชีวิตด้วยความสุจริตตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะมีความเป็นอัตลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นวิถีชุมชน

ความท้ายทาย

การสร้างชุมชนคุณธรรมที่ก้าวสู่การเป็นต้นแบบนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายกับผู้นำชุมชน เพราะต้องใช้ทั้งความรู้คู่กับคุณธรรมที่จะนำประชาชนดำเนินกิจกรรมตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ เข้าสู่กระบวนการพัฒนาสิ่งใหม่รับฟังปัญหาของชุมชน โดยให้คนในชุมชนสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วร่วมกันแก้ไข พัฒนาให้ชุมชนสามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น

         ผลลัพธ์ : ความสำเร็จของชุมชน โดยชุมชนมีการจัดกิจกรรมแก้ไขปัญหาของชุมชน และมีการส่งเสริมการทำความดีเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และปฏิบัติตามคุณธรรม พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสาหรืออื่น ๆ สามารถดำรงชีวิตด้วยหลักคุณธรรม

         ผลกระทบ : แต่ก่อนนั้นคนในชุมชนมีภาระหนี้สินของครอบครัวจำนวนมาก ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อหาเงินมาใช้ในครอบครัว ต่อมามีการตั้งกลุ่มอาชีพขึ้น ทำให้คนในชุมชนสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และมีเวลาสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายที่เดินต่อ

         ชุมชนคุณธรรมวัดหนองขุ่น ยังคงยืนหยัดตามหลักเจตนารมณ์ที่ได้วางไว้ คือ การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม สร้างความรักความสามัคคีในชุมชน สืบสานและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมการสร้างรายได้ภายในชุมชน และจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านพระพุทธศาสนาเพื่อนำคนในชุมชนได้ใกล้ชิดพระศาสนา ทำให้มีคุณธรรมในการดำรงชีวิต มีความสันติสุข และสงบร่มเย็นต่อไป

ข้อมูลการติดต่อ

พระครูจารุปริยัติการ เจ้าอาวาสวัดหนองขุ่น

๐๖๕-๖๒๗๘๑๘๖